"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552

เปิดหวูดถวิลหาอดีต ที่ 'ราด-รี'

วันที่ 17 เมษายน 2552 เวลา 09:44 น. |
 
 
เปิดหวูดถวิลหาอดีต ที่ 'ราด-รี'

เช้าตรู่ของเช้าวันเสาร์ 'เดลินิวส์ ไกด์' มีนัดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะร่วมเดินทางไปกับขบวนรถไฟ ตามโปรแกรม 'เที่ยวใกล้ๆ หัวใจเปิดหวูด : ถวิลหาอดีต ราชบุรี' หนึ่งในโปรแกรมเที่ยวทางรถไฟ ตามโครงการเที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

'ผู้โดยสารโปรดทราบ รถไฟขบวนธรรมดา กรุงเทพฯ ปลายทางหัวหิน เที่ยวเวลา 09.20 น. ได้เวลาขบวนรถออกแล้ว.....'


เมื่อรู้ว่าอีกไม่ถึง 3 นาที รถไฟขบวนนี้จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง 'เดลินิวส์ ไกด์' ก็ไม่รอช้า รีบหาเก้าอี้ไม้ที่ถูกใจ จับจองมุมที่นั่งเป็นของตัวเอง โดยการเดินทางในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ก็มาถึง สถานีราชบุรี หรือ สถานี ราด-รี

มาถึงราชบุรี เมืองโอ่งแล้ว ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถโค้ช เพื่อความสะดวกในการเดินทางภายในตัวเมือง แต่ก่อนที่จะเที่ยว ต้องเติมพลังให้ท้องสักหน่อย ที่ 'ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่เมืองราชบุรี' ร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อ ที่คนในเมืองราชบุรี รู้จักกันแทบทุกคน

ที่ 'ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่เมืองราชบุรี' นั้น มีอาหารให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่ขึ้นชื่อก็คือ 'ก๋วยเตี๋ยวไข่' ก๋วยเตี๋ยวใส่ไข่ต้ม หรือจะเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง น้ำใส ต้มยำ ฯลฯ รสชาติก็กลมกล่อมไม่แพ้กัน แต่หากไม่ถูกปากกับก๋วยเตี๋ยวก็ยังมีข้าวราดแกงจานด่วน รวมไปถึงอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างหมูสะเต๊ะ และส้มตำผลไม้ไว้บริการ


หนังท้องตึง แต่หนังตายังหย่อนไม่ได้ เพราะจากนี้ไป จะเป็นการเดินทางย้อนอดีตภายใน จ.ราชบุรี โดยเริ่มต้นที่การชม 'หนังใหญ่' วัดขนอน ที่ ต.สร้อยฟ้า ริมแม่น้ำแม่กลอง อยู่ห่างจากตัว อ.โพธาราม ไปประมาณ 10 กิโลเมตร

สำหรับหนังใหญ่นั้น ปัจจุบันหาดูได้ยากนัก เนื่องจากสมัยก่อน ถือเป็นมหรสพชั้นสูง ปัจจุบันเหลือสืบทอดกันเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ หนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสิงห์บุรี หนังใหญ่วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง และหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี

หนังใหญ่วัดขนอน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยอดีตเจ้าอาวาสคือ ท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) ท่านได้ชักชวนครูอั๋ง ช่างจาด ช่างจ๊ะ และช่างพ่วง มาร่วมกันสร้างตัวหนัง หนังชุดแรกที่สร้างคือ ชุดหนุมานถวายแหวน ต่อมาได้สร้างเพิ่มอีกรวม 9 ชุด รวม 313 ตัว

ในปี 2532 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นคุณค่าในการแสดงและศิลปะในตัวหนังใหญ่ ทรงมีพระราชดำริให้ทางวัดช่วยอนุรักษ์ตัวหนังทั้ง 313 ตัว และจัดทำหนังใหญ่ชุดใหม่ขึ้นแสดงแทน พร้อมดำเนินโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ขึ้นในวัด โดยมีมหาวิทยาลัยศิลปากรรับผิดชอบงานช่างจัดทำ


นอกจากการชมหนังใหญ่แล้ว ภายในวัดยังมี 'พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่' เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาตัวหนังใหญ่ชุดเก่าอย่างถูกวิธี และนักท่องเที่ยวยังได้ศึกษาเกี่ยวกับที่มาที่ไปของหนังใหญ่ รวมไปถึงวัสดุ และวิธีการทำด้วย

เพื่อสืบทอดให้มหรสพชั้นสูงนี้ยังคงอยู่ต่อไป ทุกวันเสาร์เวลา 10.00 น. คณะหนังใหญ่วัดขนอนจะแสดงหนังใหญ่ให้ประชาชนและผู้สนใจเข้าชมและศึกษา ฟรี ณ โรงแสดงหนังใหญ่วัดขนอน

จากนั้นเดินทางไปต่อที่ 'อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม' ที่ อ.บางแพ ภายในอาคารจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญท่านต่างๆ ลานกลางแจ้งจัดแสดง 'ลานพระสามสมัย' โดดเด่นที่การสร้างท่ามกลางร่มรื่นของไม้ใหญ่ หรือจะเป็นมุม 'ถ้ำชาดก' ถ้ำจำลองจัดแสดงแสงเสียงเกี่ยวกับพระชาติสุดท้ายของพระเวสสันดร รวมไปถึง กุฏิพระสงฆ์, บ้านไทย 4 ภาค, ลานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ฯลฯ


ออกจาก อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม เดินทางสู่ 'ชุมชนเจ็ดเสมียน' เพื่อแวะชิมไชโป๊หวานที่ร้านแม่กิมฮวย พร้อมสัมผัสกับความเป็นอดีต ท่ามกลางบรรยากาศตลาดเก่าโบราณ ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียม การดำรงชีวิต การซื้อขายเฉกเช่นในสมัยอดีต

แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว เห็นจะเป็นการร้อง เล่น เต้น และเห่เพลงอย่างสนุกสนานของผู้เฒ่า ผู้แก่ชุมชนเจ็ดเสมียน เรียกว่า ลืมแก่กันไปชั่วขณะเลยทีเดียว

เมื่อแดดร่ม ลมตก ก็ได้เวลาของการแสดง 'All About Art : สืบสานงานศิลป์ ภูมิปัญญาคนของแผ่นดิน' การแสดงภายใต้การกำกับของ 'มานพ มีจำรัส' ศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง ที่ทำงานตอบแทนแผ่นดินเกิดด้วยการสร้าง 'สวนศิลป์ บ้านดิน' เพื่อเปิดให้เป็นเวทีเติมเต็มโอกาสและฝันให้เด็กๆ รวมไปถึงผู้ที่รักและชื่นชอบในศิลปะแขนงต่างๆ

พระจันทร์เด่นหลาอยู่กลางนภา เป็นสัญญาณแสดงให้ทราบว่า ได้เวลาพักผ่อน เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น


เช้าสดใสรับอรุณ ผู้ร่วมทริปทุกท่านพร้อมขึ้นรถ เพื่อเดินทางต่อไปชมประวัติความเป็นมาของชาวลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ที่ 'พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี' ซึ่งเดิมเป็นศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลราชบุรี จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของชุมชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี อีกทั้งยังใช้เป็นศูนย์กลางการศึกษาอนุรักษ์ และเผยแพร่ให้ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ ตามแนวทางการพัฒนากิจการพิพิธภัณฑสถานสมัยใหม่ ทั้งในด้านธรณีวิทยา โบราณคดี ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ วัฒนธรรมพื้นบ้าน ชาติพันธุ์วิทยา และแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งได้แบ่งเรื่องราวออกตามลักษณะของห้องจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 10 ห้องจัดแสดง

นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น 'โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์' ถูกค้นพบที่แหล่งโบราณคดี ต.โคกพลับ อ.บางแพ, 'เทวรูปพระอิศวร ศิลปทวารวดี ราวพุทธ' ทำจากหิน, 'เศียรพระพุทธรูป' ศิลปะทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13 - 14 กว้าง 40, 'พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี' ศิลปะลพบุรี พุทธ พบที่บริเวณโบราณสถานจอมปราสาท เมืองโบราณโกสินารายณ์ อ.บ้านโป่ง, 'พระแสงราชศาสตราประจำมณฑลราชบุรี' ศิลปะในสมัยรัตนโกสินทร์ ฯลฯ


เรียนรู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์เมืองราชบุรีไปแล้ว ก็ไปต่อกันที่ของดีราชบุรี นั่นคือ การทำเซรามิค ที่ 'โรงงานเซรามิคเถ้าฮงไถ่' แต่ด้วยเวลาที่มีอยู่ไม่มากนัก จึงทำได้แต่เพียงการเพ้นท์ชามด้วยศิลปะที่เรียกว่า 'ลากุ' และการเพ้นท์แจกัน

หลักการเพ้นท์ก็มีอยู่ไม่มากนัก อยากได้สีไหน ลวดลายอะไร ก็แต่งเติมลงไป ไม่มีการปิดกั้น แต่หากว่าหลังจากการเผาแล้ว ออกมาไม่สวยดังใจหวัง ก็อย่าวางทิ้งไว้เป็นที่ระลึกให้กับโรงงานก็แล้วกัน ซึ่งหลังจากเพ้นท์เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรอเวลาในการเผาถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ชามศิลปะแบบลากุ ส่วนแจกันนั้นใช้เวลาอบเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

เมื่อได้งานศิลปะชิ้นเอก ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกแล้ว ก็ไปต่อกันที่สุดท้ายกับ 'จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว' สถานที่จัดแสดงและรวบรวมผ้าจก ศิลปะ ของเก่า วัฒนธรรมที่แสดงถึงวิถีชีวิตชาวไทยวนคูบัว เพื่อให้เป็นอนุสรณ์แก่คนรุ่นหลัง ซึ่ง ดร.อุดม สมพร ผอ.จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว แสดงความคิดเห็นว่า หากไม่เริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ อาจสูญหายไปสักวัน อีกทั้งของบางชิ้นที่เห็นว่าเป็นของใหม่สำหรับเรา แต่ในอนาคต มันจะเป็นของเก่าสำหรับคนข้างหน้า


สำหรับจิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัวแห่งนี้ แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วนคือ ชั้นล่าง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ห้อง คือ สำนักงานพิพิธภัณฑ์, ห้องแสดงศิลปะ-วัตถุโบราณสมัยทวารวดี และห้องภูมิปัญญาวิถีชีวิตของชาวไทยวนที่อยู่ในบ้านคูบัว

ชั้นบน ก็ถูกบ่งออกเป็น 3 ห้องเช่นกัน คือ ห้องรองอำมาตย์เอกหลวงศรีสวัสดิ์ (ชั้น เทพยสุวรรณ) จัดแสดงหูกและอุปกรณ์ทอผ้าที่ใช้จริง, ห้องสุปราณี ชีวิประวัติดำรงค์ จัดแสดงผ้าจกโบราณแต่ละผืนมีอายุตั้งแต่ 150 ปี และ ห้องสมสมัย-คริสโตเฟอร์ พรหมมี จัดแสดงเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่ใน จ.ราชบุรี

2 วัน 1 คืน กับการเรียนรู้จุดเริ่มต้น การดำรงอยู่ ศิลปะ ตลอดจนการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของราชบุรีอย่างเต็มอิ่ม.
 
หมายเหตุ
ขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทร.0 3247 1005
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=196595&NewsType=1&Template=1
 


Rediscover Hotmail®: Get quick friend updates right in your inbox. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Thailand
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com