เครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง คณะทำงานด้านเยาวชน
และคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมือง
วันที่ 6 มิถุนายน 2552
เรื่อง ขอเชิญเข้าร่วมเสวนา ร่วมแสดงความคิดเห็น และประชาสัมพันธ์
เรียน ท่านที่สนใจการศึกษา และ ปัญหาการเมือง ที่เคารพทุกท่าน
คณะทำงาน ด้านเยาวชน สภาพัฒนาการเมือง และสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ ได้ร่วมกันจัดการเสวนา ระดมสมอง เรื่องนโยบายสาธารณะที่มีผลกระทบต่อเยาวชน โดยเฉพาะ ระบบแอดมิชชั่น ซึ่งผลการประชุมที่ได้จะนำส่งต่อให้หน่วยงานภาครัฐ โดยผ่านสภาพัฒนาการเมือง ต่อไป
จึงใคร่ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมเสวนา ณ ห้องประชุม 2201 ตึก TST (สสว)ชั้น 22
ศูนย์ศึกษาวิภาวดี ม.รังสิต สาขาวิภาวดี หัวมุมซอยวิภาวดีซอย 9 ใกล้สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย 2552 เวลา 8.30.00 – 17.00 น. หัวข้อการเสวนา“ผลของแนวนโยบายสาธารณะ : ระบบแอดมิชชั่น สร้างหรือทำร้ายศักยภาพเด็กไทย” โดยมี ตัวแทนเยาวชนและผู้ปกครอง ประมาณ 70-100 คน
และคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมือง สภาพัฒนาการเมือง ได้จัดเสวนาในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2552หัวข้อการเสวนา “วิพากษ์แผนพัฒนาการเมือง กับ อนาคตการเมืองไทย” สถานที่ โรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ (หัวมุมสนามหลวง) เวลา เวลา 8.30– 16.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่าย รายละเอียดและความคืบหน้าอื่น ๆ ติดตามได้จากในเว็บไซต์ www.parent-youth.net
จึงเรียนมา เพื่อประชาสัมพันธ์ เชิญชวนท่านที่สนใจ ร่วมประชุมในวันและเวลาดังกล่าว และช่วยกันกระจายข่าวนี้ให้แก่เพื่อน ๆ ของท่านหรือตามเว็บไซต์ต่าง ๆ จักขอบพระคุณยิ่ง
สำรองที่นั่งฟรี ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-6367-1004
ขอแสดงความนับถือ
(พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี)
สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง
นายกสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ
ประธานเครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
โทร. 08-1298-0284 08-6367-1004 โทรสาร. 0-2763-7722
หมายกำหนดการในวันที่ 21 มิถุนายน 2552
เวลา 8.30 - 9.00 น. ลงทะเบียน
เวลา 9.00 - 9.15 น. เปิดเสวนา โดย พลโท นิวัติ บูรณกุล
เวลา 9.15 - 10.00 น. แนวทางการคัดเลือกของประเทศในยุโรป และอเมริกา
โดย อ.สมบัติ เบญจศิริมงคล มหาวิทยาลัยรังสิต
เวลา 10.00 - 10.30 น. แนวทางการคัดเลือก กับการพัฒนาศักยภาพเด็กไทย
โดย พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี
เวลา 10.30 - 10.45 น. พัก
เวลา 10.45 - 11.30 น. ผลกระทบจากระบบแอดมิชชั่น
โดย ตัวแทนเยาวชน ไทย / เทศ
ตัวแทนผู้ปกครอง และอาจารย์ของมหาวิทยาลัย
เวลา 11.30 - 12.15 น. ซักถามข้อสงสัย รับฟังความคิดเห็น
เวลา 12.15 - 13.00 น. พักทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 15.30 น. แบ่งกลุ่มระดมสมอง ผลกระทบระบบแอดมิชชั่น
และ โอกาสทางการศึกษา และ ค่าใช้จ่ายทางการศึกษา
เวลา 15.30 - 16.00 น. สรุปประเด็น เสนอแต่ละกลุ่ม
และแถลงข่าว
หมายเหตุ กำลังดำเนินการติดต่อวิทยากร
หมายเลขโทรศัพท์ 08-1298-0284 , 08-6367-1004
หมายเลขโทรสาร 02-763-7722
หรือ ส่งอีเมล์มาที่ thai9lee@gmail.com / kamolpar@yahoo.com
เว็บไซต์
คณะทำงานด้านเยาวชน และคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมือง
สภาพัฒนาการเมือง (จัดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 78 (7))
และ พระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเมือง พ.ศ.2551
มาตรา 6 (4) ส่งเสริมและพัฒนาให้ประชาชน มีความเข้มแข็งในทางการเมือง รวมทั้งการดำเนินการ (ง) ส่งเสริมและให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถใช้สิทธิตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งในการรับทราบ และ เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
ร่วมกับสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ และ เครือข่ายภาคประชาสังคมต่างๆ
มีความยินดีขอเรียนเชิญ ประชาชน เยาวชน และท่านผู้สนใจ
เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “แนวทางนโยบายรัฐ เพื่อป้องกันปัญหาเยาวชน”
“ระบบแอดมิชชั่นสร้างหรือทำร้ายศักยภาพเด็กไทย”
ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 8.30 - 16.00 น.
ณ.ศูนย์นวัตกรรมสังคม ม.รังสิต สาขาวิภาวดี ชั้น 22 ห้อง 2201
ตึก TST (สสว.) หัวมุมถนนวิภาวดีซอย 9
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมเสวนา
และ ในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2552 เวลา 8.30 - 16.00 น.
เสวนาเรื่อง “วิพากษ์แผนพัฒนาการเมือง กับ อนาคตการเมืองไทย”
สถานที่ รร.รอยัลรัตนโกสินทร์ สนามหลวง
ผู้สนใจสำรองที่นั่ง ฟรี ที่ 08-6367-1004 หรือ 08-1298-0284
ท่านสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ thai9lee@gmail.com หรือ kamolpar@yahoo.com
เยี่ยมชมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.parent-youth.net หรือ www.pdc.go.th
ทางออกของการพัฒนาการเมืองไทย
ให้รู้ถึงสิทธิ หน้าที่ ของตน สร้างการมีส่วนร่วม การปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง (มีส่วนร่วมในอำนาจของฝ่ายปกครอง ทั้งจาก นักการเมือง ข้าราชการมาสู่ประชาชน มีการตรวจสอบ ติดตาม ถ่วงดุล เสนอแนะ การใช้อำนาจ)
มี 2 ระดับ
1. ระดับชาติ
1.1 ตั้งคณะกรรมการ ฝ่ายเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ เน้นประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เลือกตั้ง เผยแพร่ความรู้ด้านสิทธิ หน้าที่ จิตสำนึกของประชาชน ให้ประชาชนตื่นตัวในการรักษาสิทธิ และหน้าที่ ของตนเอง (การสร้างความเข้มแข็งของพลเมือง และสิทธิชุมชน) ผ่านทางโรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานรัฐ และเอกชน ในระบบ และ นอกระบบ ผ่านสื่อทุกชนิด ใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ผ่านสื่อทุกสื่อ ฯลฯ โดย สพม. เป็นการประชาสัมพันธ์ สพม ไปในตัว เช่น ในยุทธศาสตร์ที่ 2 การมีส่วนร่วม การสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง การสร้างความรู้ทางการเมืองแก่พลเมืองเช่น
การสร้างประชาธิปไตยทางตรง ประชาชนมีสิทธิจากรัฐ คือ
1. สิทธิพื้นฐาน สิทธิในการครองทรัพย์สิน สิทธิเสรีภาพบุคคล
2. สิทธิทางการเมือง เลือกตั้ง การเสนอข้อคิดเห็น การมีส่วนร่วมต่างๆ
3. สิทธิทางสังคม รักษาพยาบาลฟรี การศึกษา พันธะหน้าที่ เสียภาษี
1.2 ตั้งคณะกรรมการจริยธรรม หรือเชื่อมโยงกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว คือศูนย์คุณธรรม เพื่อ ปลูกฝังความรักชาติ เสียสละ จิตสาธารณะ รักประชาชน แก่ประชาชน และเยาวชน
1.3 ตั้ง คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น หรือคณะกรรมการการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น-แก้ไขเกณฑ์ที่มาของตัวแทนองค์กรอิสระ กกต. ปปช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ
- มีบทลงโทษ อย่างหนัก มีการถ่วงดุล ตัวแทนอิสระ สามารถปลดออกได้โดยตรงโดยสภาประชาชน
- แก้ไขเกณฑ์ที่มาของ สส. สว. อบต. ผู้ว่าฯ คุณสมบัติ รมต. ( ความจริงต้องกำหนดคุณสมบัติ รมต. หรือประเมินผลงาน ภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปี ปลดออกได้) มีการตรวจสอบถ่วงดุล การปลดออกโดยสภาประชาชน โดยคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น หรือคณะกรรมการการมีส่วนร่วม
- แก้ไขเกณฑ์ของการเลือกตั้งทุกระดับ
1.4 ตั้งคณะกรรมการประสานงาน หรือสำนักงานสพม. เพื่อแจ้งไปยัง ให้ทุกหน่วยงาน
1.4.1 ทบทวนกฎหมายของตนที่มีปัญหา โดยเปิดให้ประชาชน และข้าราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอความคิดเห็นร่วมด้วย และแก้ไขกฎหมาย ปปช . ไม่กำหนดอายุความ กฎหมายผลประโยชน์ทับซ้อน เช่นห้ามออกนโยบายเอื้อต่อเอกชน การฮั้วประมูล การให้สัมปทาน การอุ้มคู่แข่ง การขึ้นค่าก๊าซ ค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน สินค้าต่างๆ การสร้างตลาดผูกขาด ต้องมีบทลงโทษจริงจังแก่ข้าราชการ ที่เอื้อประโยชน์แก่เอกชน และข้าราชการห้ามเป็นกรรมการในบริษัทกึ่งเอกชน หรือมีเอกชนถือหุ้นเช่นปตท. กฎหมายพรรคการเมือง เช่น ห้ามทุกคน ทุกบริษัท นายทุน บริจาคให้พรรคเกิน 1 แสนบาท / คน / ปี การบังคับใช้กฎหมาย ห้ามมีสองมาตรฐาน
1.4.2 ให้ทุกหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สร้างกรอบธรรมาภิบาล ระบบประชาธิปไตยในหน่วยงาน ทั้งกับข้าราชการชั้นผู้น้อย ในสังกัด ประชาชนที่มาติดต่อ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย นักเรียนในโรงเรียน มีการวัดประเมินผล และ จับต้องได้ มีผลต่อการให้โบนัส รางวัล เช่น การเปิดพื้นที่ให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนใช้สถานที่ของราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สนับสนุนทั้งงบประมาณ สถานที่ พื้นที่สื่อ สนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชน เยาวชน นักศึกษา ในรูปแบบของสภาประชาชน เช่น การมีส่วนร่วมในทุกระดับ การสนับสนุน การปลด สส. สว. รมต. ข้าราชการใหญ่
หรือ นโยบายของรัฐ และกฎหมายที่ออกมา ต้องโพสต์ให้ผ่านความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน ( รัฐธรรมนูญ ม. 87 ) ทางเว็บไซด์ของสพม. หรือรัฐบาล
หรือหน่วยงานในแต่ละกระทรวง
หรือ สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้การตัดสินใจ คิด ปฏิบัติ การสนับสนุนทรัพยากร การได้รับผลประโยชน์ มีส่วนร่วมในการประเมินผล ควบคุม ตรวจสอบ การจะขึ้นราคาค่าก๊าซ ค่าไฟฟ้า ควรมีความเห็นจากภาคประชาชนว่าขึ้นไปแล้วผู้ใดได้ประโยชน์ นายทุนหรือประชาชน หรือรัฐบาล
การแต่งตั้งคณะกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ควรมีคณะกรรมการที่โปร่งใส และหากคณะกรรมการเลือกบุคคลที่ไม่โปร่งใส ควรมีบทลงโทษ คณะกรรมการด้วย การกำหนดค่าตอบแทนควรเปิดเผยสู่ สาธารณะ เช่น ในหน้าเวบไซด์ของหน่วยงานนั้นๆ
1.5 ตั้งโรงเรียนฝึกอบรมทางการเมือง การบริหารแบบประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมนักการเมือง ทุกศาสนาเข้ามามีบทบาท ผู้ที่สามารถเรียนได้ต้องเป็นผู้ที่เคยทำความดี หรือผลงานต่อสาธารณะ หรือต่อแผ่นดิน ซึ่งผู้แทนทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมนี้
1.6 ให้มีสื่อทีวี ของสพม. ช่อง TV 1 ช่อง ทุกวัน พูดคุยประเด็นสิทธิของประชาชน หน้าที่ การมีส่วนร่วม ปัญหาข้อติดขัด ความเดือดร้อนของประชาชน สื่อมวลชน เน้นการให้องค์ความรู้ ประชาธิปไตย การปลูกฝังความรักชาติ การเสียสละ การยกย่องคนดีมากกว่าคนมีเงิน และการชี้นำประชาชนในแนวที่ถูกต้องมีคุณธรรม และวัฒนธรรมไทยที่ดีงามมากกว่าชี้นำวัฒนธรรมตะวันตก
1.7 การกระจายอำนาจเงิน งบประมาณอำนาจสั่งการจากทุกกระทรวง ทบวง กรม มีการประเมินผล การตรวจสอบจากชุมชนร่วมด้วย
1.8 ตั้งสภาพัฒนาการเมืองประจำภาค และมี สภาประชาชน หรือสมัชชาประชาชน ประจำภูมิภาค และกระจายทุกจังหวัดเชื่อมโยงกับภาค และ มีการตั้งรัฐบาลเงา เพื่อเน้นส่งเสริมสนับสนุน และให้ความรู้ประชาธิปไตยทางตรงแก่ประชาชน ติดตามทุกระทรวง เพื่อทักท้วง ติดตาม เสนอแนะ ถอดถอน รมต. นายก องค์กรอิสระ ข้าราชการผู้ใหญ่ มีหน่วยงานในแต่ละภาค โดยมีสำนักงาน มีกองเลขา (เจ้าหน้าที่ประจำหนึ่งคน เพื่อติดต่อประสานงาน ประชาสัมพันธ์ รับเรื่อง และ ติดตาม)
2. แผนพัฒนาการเมืองระดับพื้นที่ หรือเฉพาะเรื่อง
- สมัชชาประชาชน หรือสภาประชาชน ระดับจังหวัด ท้องถิ่น ประชุมโดยสม่ำเสมอ
- สนับสนุนการเกิดกลุ่มของประชาชนในกลุ่มปัญหาต่างๆ เช่น หนี้สิน การศึกษา ที่ทำกิน เขื่อน ฯลฯ
3. ทั้งสองระดับต้องมีคณะกรรมการ หรือคนกลาง ในการนำสรุปความคิดเห็นที่เป็นฉันทามติ แล้วเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสร้างบทลงโทษ หรือความรับผิดชอบของหน่วยงานทั้งรัฐ และเอกชน หากทำโครงการแล้วเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
กมลพรรณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น