"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2552 เวลา 18.00 น. ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

คอนเสิร์ต ซิมโฟนี 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ “คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย”
โดย : กองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ ร่วมกับ มูลนิธิสายธารประชา    เมื่อ : 30/04/2009 02:03 PM

กองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ ร่วมกับ มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย

ขอเชิญชมคอนเสิร์ต ซิมโฟนี 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์

"คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย"

รายได้เพื่อจัดตั้งมูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์

พบกับต้นฉบับผลงานเพลงครั้งสมบูรณ์ ของ จิตร ภูมิศักดิ์
เรียบเรียงเสียงประสาน บรรเลง และขับร้องประสานเสียง
โดย วงออเสตราวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พร้อมด้วยศิลปินรับเชิญ โฮป แฟมมิลี่


วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2552
เวลา 18.00 น. ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

บัตรราคา 300,500,700 และ 1,000 บาท
ซื้อได้ที่ ร้านน้อง ท่าพระจันทร์, โรบินสัน สาขา รัชดาภิเษก,
มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย 02-621-8998-9
และ กลุ่มดินสอสี โทร. 0-2-623-2838-9

พิเศษ บัตรราคา 1,000 บาท รับ VCD เพลงจิตร ภูมิศักดิ์ ฟรี
รายได้เพื่อก่อตั้งมูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์ และ กิจกรรมต่อเนื่องในโครงการ 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ ( พ.ศ. 2553) และ 45 ปี วันเสียชีวิต ( พ.ศ. 2554 )

เรียบเรียงชีวิต จิตร ภูมิศักดิ์

พ.ศ. 2473

จิตร ภูมิศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2473 เดิมชื่อ "สมจิตร" เกิดที่ ตำบลประจันตคาม อำเภอ ประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายศิริ ภูมิศักดิ์ นายตรวจสรรพสามิต กับนางแสงเงิน (ฉายาวงศ์) ชื่อ "สมจิตร" เป็นชื่อที่ตั้งให้คล้องจองกับ "ภิรมย์" พี่สาวคนเดียวของจิตร แต่เนื่องจากในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องการให้ชื่อสื่อลักษณะเพศ "สมจิตร" จึงถูกเปลี่ยนเป็น "จิตร"

พ.ศ. 2479

2479 - 2482 ย้ายตามพ่อ ไปเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ที่จังหวัด กาญจนบุรี

พ.ศ. 2483

ย้ายตามพ่อ ซึ่งเป็นนายตรวจ สรรพสามิตร ไปอยู่จังหวัดสมุทรปราการ

พ.ศ. 2484

2484 - 2489 เข้าเรียนประถม 4 ที่ จ.พระตะบอง โดยในช่วงนี้ ได้เรียนรู้ ภาษาเขมร และภาษาฝรั่งเศษ จนแตกฉาน
ต่อมา บิดาและมารดาได้ตัดสินใจแยกทางกัน มารดาย้ายไปเปิดร้านตัดเสื้ออยู่ลพบุรีเพื่อส่งเสีย จิตร ภูมิศักดิ์และพี่สาว เรียนที่กรุงเทพ โดยในช่วงแรกจิตรเรียนที่ โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร และพักต่อมาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

พ.ศ. 2493

วันที่ 27 เมษายน 2493 สอบไล่ได้เตรียมสอง ( ม.ศ. 5) จากโรงเรียน เตรียมอุดม
และสอบเข้าเรียนต่อ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีเดียวกัน
ขณะเรียนอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จิตร ภูมิศักดิ์ได้มีโอกาสเรียนวิชาภาษาไทยกับศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน ซึ่งจิตรสอบได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน แต่พระยาอนุมานราชธนหักคะแนนออกเสีย 3 คะแนนเพื่อไม่ให้เหลิง

พ.ศ. 2496

จิตร ภูมิศักดิ์ได้รับตำแหน่งเป็นสาราณียกรของมหาวิทยาลัย มีหน้าที่จัดทำหนังสือประจำปีของ มหาวิทยาลัย ฉบับ 23 ตุลาคม 2496 เพราะต้องการเปลี่ยนแปลง โดยแหวกกรอบเดิม ลงเนื้อหาที่ก้าวหน้า รับใช้ประชาชน แทน เนื้อหาที่ซ้ำๆ ซากๆ เหมือนกันทุกปี
จากเนื้อหาที่ผิดแผกไปจากปีก่อนๆนี่เอง ทำให้มีการสั่ง อายัดหนังสือเกิดขึ้น
วันที่ 27 ตุลาคม 2496 จิตร ภูมิศักดิ์ ลาออกจาก ตำแหน่งสาราณียกร หลังเกิดข้อครหาเรื่อง หนังสือมหาวิทยาลัย ฉบับ 23 ตุลาฯ
วันที่ 28 ตุลาคม 2496 เกิดเหตุการณ์สอบสวนจิตร ภูมิศักดิ์ขึ้นที่หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และจิตร ภูมิศักดิ์ถูกกลุ่มนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จับ "โยนบก " ลงจากเวทีหอประชุม ทำให้จิตร ภูมิศักดิ์ได้รับบาดเจ็บ ไปพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลเลิดสินเป็นเวลาหลายวัน

พ.ศ. 2497

ต่อมาทางการของมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการ พิจารณาโทษของจิตร ภูมิศักดิ์ และทางคณะกรรมการได้มีมติให้ พักการเรียนเป็นเวลา 1 ปี ระหว่างที่ ถูกสั่งพักการเรียน จิตร ภูมิศักดิ์ ได้งานสอนหนังสือ เป็นอาจารย์ สอนวิชาภาษาไทยที่โรงเรียนอินทรศึกษา จิตร ภูมิศักดิ์ได้นำเอาแนวคิดใหม่ไปวิเคราะห์วรรณคดี สอนนักเรียน ผลก็คือนักเรียนชอบ แต่เจ้าหน้าที่บริหารโรงเรียนไม่ไว้วางใจจึงจำต้องออกจากงาน
ต่อมาได้งานใหม่ที่ "หนังสือพิมพ์ไทยใหม่" มี สุภา ศิริมานนท์ เป็นบรรณาธิการ งานในช่วงนี้เอง เป็นประโยชน์ ต่อจิตร ภูมิศักดิ์อย่างมากในการสร้างสรรค์ผลงานอันมีคุณค่า ต่อประชาชน และวงวิชาการของไทย ส่วนใหญ่จะเป็นงานวิจารณ์ เช่น วิจารณ์วรรณศิลป์ วิจารณ์หนังสือ วิจารณ์ภาพยนต์ โดยใช้นามปากกา "บุ๊คแมน" และ "มูฟวี่แมน"

พ.ศ. 2498

จิตร ภูมิศักดิ์ กลับเข้าเรียนต่อ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 3 ขณะเรียน จิตร ภูมิศักดิ์ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนนิสิตที่มีแนวคิดก้าวหน้าจากคณะต่างๆ รวมทั้งจากคณะอักษรศาสตร์ด้วย ทำกิจกรรมที่เน้นหนักไปในการให้ การศึกษา การกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษามีความรักชาติ รักประชาธิปไตย ให้สนใจการเมือง
ผลงานของจิตร ภูมิศักดิ์กับกลุ่มเพื่อน

- รณรงค์ให้นักศึกษาบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์เพลิงไหมที่ จ.พิษณุโลก
- ชักชวนนิสิตจุฬาฯออกไปปฏิบัติงานตาม หัวลำโพง ตามกรมแรงงาน กรมประชาสงเคราะห์ในเวลาเย็น นำอาหาร เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค ไปแจกจ่าย และหาที่อยู่ตามวัดต่างๆให้ผู้อพยพชาวอีสาน และสกัดกั้นไม่ให้ชาวอีสานถูกหลอกลวงจากการใช้แรงงาน โดยมีนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเข้าร่วมด้วย
- พยายามจัดตั้ง "สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย" ร่วมกับนึกศึกษาจากสถาบันต่างๆ ได้มีการ จัดทำร่างระเบียบนำเสนอขอจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสมาคม ต่อมาได้เกิด การรัฐประหาร สหพันธ์ฯจึงไม่ได้เกิด
- การพยายามสร้างความสามัคคีระหว่างจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ ชูคำขวัญ เพื่อจูงให้นิสิตนักศึกษาจากสองมหาวิทยาลัยลืมลัทธิหลงมหาวิทยาลัย หันมาถือเอาอุดมการณ์รับใช้ ประชาชนร่วมกันแทน
- ออกหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัย ที่ดำเนินการโดยนิสิต ชื่อว่า "เสียงนิสิต" ออกเป็นรายปักษ์ มีคำขวัญว่า "ศึกษาเพื่อรับใช้ประชาคม"
- ร่วมแต่งเพลง "มาร์ชเยาวชนไทย" เพลง "ธรรมศาสตร์-จุฬาฯชิงชัย" เพลง "มาร์ชกรรมกรไทย"
- ร่วมชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งที่สกปรก เมื่อปี พ.ศ.2500 ได้มีการออกใบปลิวเปิดโปงการโกงการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและนักการเมืองในขณะนั้น

พ.ศ. 2500

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2500 จบการศึกษา ปริญญาบัตรอักษรศาสตร์บัณฑิต
เข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่วิทยาลัยครูเพชรบุรี วิทยาลงกรณ์
เป็นอาจารย์พิเศษวิชาภาษาอังกฤษที่คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
ศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ สถาบันค้นคว้าเรื่องเด็กของยูเนสโก ที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร
จิตร ภูมิศักดิ์เริ่มงานเขียนเรื่อง "ศิลปเพื่อชีวิต" เป็นงานเขียนที่ปฏิวัติแนวคิดเรื่องศิลปะอย่างขุดรากถอนโคน ชี้นำให้เห็นว่า "ศิลปต้องเกื้อเพื่อชีวิต" มิใช่ "ศิลปเพื่อศิลป" อย่างเลื่อนลอย ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ หนังสือรับน้องของ มหาวิทยาลัยศิลปากร จากนั้น สำนักพิมพ์เทวเวศม์ ได้นำไปรวมพิมพ์เป็นเล่มใช้ชื่อว่า "ศิลปะเพื่อชีวิตศิลปะ เพื่อประชาชน" จิตร ภูมิศักดิ์ ใช้นามปากกาว่า "ทีปกร" ซึ่ง จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นคนคิดขึ้นเอง และให้คำแปลว่า "ผู้ถือดวงประทีป" คำที่มีความหมาย อันรุ่งโรจน์โชติช่วง

พ.ศ. 2501

วันที่ 21 ตุลาคม 2501 จิตร ภูมิศักดิ์ ถูกจับข้อหา "มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์" และ "สมคบกันกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายใน และภายนอกราชอาณาจักร"

พ.ศ. 2507

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2507 จิตร ภูมิศักดิ์ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากศาลกลาโหมยกฟ้อง รวมเวลาที่ จิตร ภูมิศักดิ์ ถูกคุมขังโดยไม่มีความผิด 6 ปีเศษ ระหว่างที่จิตร ภูมิศักดิ์อยู่ในคุก จิตร ภูมิศักดิ์ ได้ทุ่มเวลาในการเขียนหนังสือ ผลงานเด่นๆของจิตร ภูมิศักดิ์ที่เกิดขึ้นในคุก อาทิ ผลงานแปลนวนิยายเรื่อง "แม่" ของแมกซิมกอร์กี้ , โคทาน นวนิยาย จากอินเดียของเปรมจันท์ (แปลไม่จบ) และผลงานทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ คือ "ความเป็นมาของคำสยาม ไทย ลาวและขอม และลักษณะทางสังคม ของชื่อชนชาติ"

พ.ศ. 2508

วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2508 วันเสียงปืนแตก มีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับทหารป่าเป็นครั้งแรก ที่บ้านนาบัว อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันเริ่มต้นของสงครามประชาชน ในที่ประชุมกรมการเมืองขยายวงที่ดงพระเจ้าเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2508 มีมติรับรองและอนุมัติให้ตอบโต้ฝ่ายรัฐบาลด้วยกำลังอาวุธได้ โดยตั้งชื่อกองกำลังทหารนี้ว่า " พลพรรคประชาชน ไทยต่อต้านอเมริกา" เรียกย่อๆว่า "พล.ปตอ." ธง แจ่มศรี(ลุงธรรม) ได้มอบหมายให้ จิตร ภูมิศักดิ์แต่งเพลง มาร์ชประจำพลพรรค

เดือนตุลาคม พ.ศ.2508 จิตร ภูมิศักดิ์ ได้เดินทางสู่ชนบทภาคอีสาน เพื่อเข้าร่วมต่อสู้กับ พรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย ( พคท.) ในนาม "สหายปรีชา"
เดือนพฤศิจกายน พ.ศ.2508 สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) ได้เดินทางไปที่ บ้านดงสวรรค์ ชายป่าดงพันนาโดยมีสหายไสว นักรบแห่งบ้านเปือยไปรอรับ มุ่งสู่ที่มั่นกลางดงพระเจ้า ในฐานะ "คนผ่านทาง" ซึ่งจะได้รับการส่งตัวไปปฏิบัติงานในประเทศจีน ตามคำขอของ สหายไฟ (อัศนี พลจันทร) ต่อ พคท. แต่สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) ขอเรียนรู้การปฏิวัติในชนบทไทยเสียก่อนระยะหนึ่ง

สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) ใช้ชีวิตอยู่ที่ดงพระเจ้าได้ไม่นาน กองทหารป่าก็ถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากวาดล้าง นับเป็นครั้งแรกที่มีการแตกเสียงปืนในดงพระเจ้า
สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) และพวกได้ถอยทัพไปยังภูผาดง ผ่านภูผาลม ไปตั้งทับใหญ่แห่งใหม่ที่ ภูผาตั้ง ซึ่งภูผาแห่งนี้ สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) ได้ปฏิบัติงานมวลชน โดยมีสหายสวรรค์เป็น "ทหารพิทักษ์" คอยติดตาม และเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่ภูผาลม สหายปรีชา(จิตร ภูมิศักดิ์) ได้แต่งเพลง "ภูพานปฏิวัติ" ขึ้น และเพลงนี้กลายเป็นเพลงปฏิวัติอันโดดเด่นของ ขบวนการคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย

พ.ศ. 2509

วันที่ 4 พฤษภาคม 2509 สหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) และพลพรรคอีก 5 คนข้ามทางสายวาริชภูมิ-ตาดภูวง มาทำงาน มวลชนที่บ้านหนองแปน และบ้านคำบ่อ
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2509 สหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) และพลพรรคได้ถูกล้อมปราบจากฝ่ายรัฐบาล สหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) สหายสวรรค์และ สหายวาริช ได้หลบหนีไปทางเทือกเขาภูอ่างศอ แต่ได้หลงทางไปถึงบ้านหนองกุงในเวลาเย็น ด้วยความหิว สหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) ได้เข้าไปขอข้าวในหมู่บ้านหนองกุ่ง แต่ชาวบ้านรายหนึ่งได้แอบไปแจ้งแก่ กำนัน เมื่อสหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) ได้รับห่อข้าวก็ เดินทางออกมา ที่ชายป่าท้ายหมู่บ้านเพื่อนำห่อข้าวมาให้ กับสองสหาย กำนันและกลุ่มทหาร อส. ตามมาทัน ที่นาจารย์รวย และ สหายปรีชา (จิตร ภูมิศักดิ์) จึงถูกล้อมยิงเสียชีวิตลงที่ชายป่าบ้านหนองกุง ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร

http://www.thaingo.org/prboard_1/view.php?id=8236

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Thailand
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com