| สุดยอดขุนพลแจ๊ส "ม.มหิดล" คว้าแชมป์ Thailand Jazz Competiton #4 | 
          | โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 19 เมษายน 2552 17:00 น. | 
        |  | 
        |       | ทีม " Jazz สหพร" จากดุริยางคศิลป์ "มหิดล" โชว์ที่เด็ด ปล่อยพลังเพลงแจ๊ส คว้ารางวัลชิงชนะเลิศ"Thailand Jazz Competition"ครั้งที่ 4 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 100,000 บาท 
 
 (วานนี้) 19 เมษายน 2552 เวลา 18.00 น. คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับ บริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเวทีการแข่งขันการประกวด "Thailand Jazz Competition"ครั้งที่ 4 รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 100,000 บาท กิจกรรมเฟ้นหาสุดยอดนักดนตรีแจ๊สไทยระดับเยาวชน และประชาชนทั่วไป
 
 ธนาทร เจียรกุล คณบดีคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รองประธานจัดงาน กล่าวว่า จุดมุ่งหมายในการจัดกิจกรรม ไทยแลนด์แจ๊สคอมเพททิชั่น ครั้งที่ 4 - เดอะฟินาเล่ คอนเสิร์ต (Thailand Jazz Competition #4 - The Finale Concert) เพื่อสร้างโอกาสและสนับสนุนให้นักดนตรีที่ชนะการประกวด ได้แสดงศักยภาพทางดนตรีแจ๊สของตนแก่สาธารณชนอีกครั้งหนึ่ง
 
 "การจัดงานในครั้งนี้จะยิ่งส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ชนะการประกวด มีกำลังใจและขยันฝึกซ้อมเพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักดนตรีระดับมืออาชีพในอนาคตได้ เราหวังว่าจะสามารถสร้างคนดนตรีรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับนานาชาติ ให้เกิดขึ้นในสังคมดนตรีไทยมากยิ่งขึ้น และหวังว่าเวทีแห่งนี้จะเป็นที่สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยสนใจดนตรีแจ๊สมากขึ้นอีกเช่นกัน"
 
 โดยภายในปีนี้ได้แบ่งการแข่งขันเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Jazz Ensemble สมาชิกในกลุ่ม 4-6 คน สำหรับเพลงที่ใช้ในการประกวดเป็นเพลงในจังหวะ Swing จากยุค New Orleans ถึงยุค Post Bop 1 เพลง และเพลงตามถนัด 1 เพลง ส่วนประเภทที่เพิ่มรูปแบบมาใหม่ในปีนี้คือ Individual Performance เปิดโอกาสให้โซ่โล่เดียว และสมัครได้ทุกเครื่องมือ และขับร้อง ยกเว้น Drums และ Percussion สำหรับเพลงที่ใช้ในการประกวดนั้น คือ Confirmation (Charlie Parker) 1 เพลง และเพลงตามถนัด 1 เพลง
 
 ผลปรากฏว่า นักศึกษาทีม Jazz สหพรจากมหาวิทยาลัยมหิดล กวาดรางวัลชนะเลิศ ประเภท Jazz Ensemble คว้าถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท
 
 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งตกเป็นของมหาวิทยาลัยศิลปากร ทีม "A Fast The เฟี้ยว A เฟี้ยว The เงาะ" ได้รับเกียรติบัตร และเงินรางวัล 50,000 บาท
 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ "ทีม MYX" เป็นการร่วมกลุ่มกันของนักศึกษาต่างรั้วมหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยศิลปากร,มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลชมเชยอีก 3 รางวัล ได้แก่ทีม SUIKA, ทีม 8 AM. และทีม สิงห์คะนองนา ตอนพระเจ้าบุเรงดอง ยกทัพตีกรุงเสธ อโยธยา
 
 ส่วนประเภท Individual Performance ผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ไปครอง ตกเป็นของ "อาร์ม" อานนท์ เฟื่องฟู นักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ มือ Saxsophone
 ส่วนรองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ มือเปียโนอย่าง "นายธีรภัทร์ จันทบ" นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 30,000 บาท ตามด้วย "นายพชระ คุ้มชัยสกุล" นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล มือกีตาร์ สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 15,000 บาท สำหรับรางวัลชมเชยอีก 3 รางวัล ได้แก่นางสาวภารวี สมบัติสิริ , นายทวีศักดิ์ บูรณพานิชพันธุ์ และนายวรรณวุฒิ วรรณารุณ ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 5,000 บาท
 
 "อาร์ม" อานนท์ เฟื่องฟู เปิดเผยว่า เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาทุกปี พร้อมทั้งปรับปรุงในจุดที่ต้องแก้ไข จนกระทั่งมั่นใจและลงประกวดอีกครั้ง
 
 "ทุกครั้งที่ลงแข่ง ผมจะบันทึกเสียงเพลงที่เล่นไว้ และกลับไปดูจุดที่เราบกพร่อง ดูพลังเสียง คือเราต้องทำให้ดีกว่าเดิม ซึ่งก็ได้คำแนะนำจากอาจารย์ รุ่นพี่ ในเรื่องเทคนิคการเล่นเพลง เพราะเราจะฟังเพลงแจ๊สอย่างเดียวไม่ได้ รู้จักเพลงอื่นบ้าง ซึ่งแต่ละเพลง แต่ละแนวจะไม่เหมือนกัน ถ้าเรารู้จักเพลงอื่นมากขึ้น เราจะรู้เทคนิคการวิธีเล่นได้มากขึ้นด้วย พยายามเอาแนวเพลงต่างๆ มารวบรวม จนกระทั่งได้เพลงที่เราสามารถเล่นได้ดี
 
 การเล่นเดี่ยวและการเล่นกับวงจะแตกต่างกัน การเล่นเป็นวงกับเพื่อนในแต่ละเครื่องมือ เราจะต้องเล่นให้เข้ากัน เข้าขากัน ส่วนการเล่นเดี่ยวก็จะมาเล่นกับวง เพียงแต่เราจะต้องสามารถเป็นผู้นำ สามารถควบคุมวง ทั้งตอนนี้ต้น และจบเพลง เกิดผิดพลาดขึ้นมา เราจะมีวิธีการทำอย่างไรให้เพลงออกมาสมบูรณ์ที่สุด"
 
 ส่วน"ดิ๊ก"นายธีรภัทร์ จันทบ นักศึกษาชั้นปี 2 คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้แต่งเพลงจากทีมJazz สหพร เปิดเผยว่า ทีเด็ดของการเล่นเพลงแจ๊สของชาวมหิดล ไม่ได้แตกต่าง หรือดีกว่าสถาบันอื่น แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทีมที่จะสามารถ ทำให้การแสดงออกมาได้ดีแค่ไหน
 
 "ก่อนหน้านี้แต่ละคนในทีมมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม Thailand Jazz Competiton เพียงแต่อยู่กันคนละทีม พอมาปีนี้ได้เรามารวมกลุ่มกัน ช่วยกันทำเพลง ซึ่งจะมีโจทย์ของการเล่นเพลงบังคับ ซึ่งไปเพลงใยยุคเก่า และอีกเพลงต้องเป็นเพลงในยุคใหม่ ซึ่งทีมของเราอยากแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ เพราะอยากจะนำเสนอความแปลกใหม่ เพิ่มเนื้อหา และทำนองเพลงลงไป ที่สำคัญเวทีการแสดงเพลงแจ๊สในเมืองไทยมีน้อย บวกกับอยากเก็บประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับเพลงแจ็สมากขึ้น"
 
 ทั้งนี้ ดิ๊ก ได้เอ่ยถึงแรงบันดาลในการแต่งเพลง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะสังคมการเมือง "เนื้อหาของเพลงไม่ได้บอกว่า ฝ่ายไหนดี หรือไม่ดี แต่จะบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่าย"
 
 ด้าน บูรพา อัตถากร ประธานกรรมการ บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ได้การประกวดนี้ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนผู้มีความสามารถและรักในดนตรีแจ๊สได้แสดงออกอย่างเต็มที่ นอกจากเป็นการจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนไทยให้หันมาสนใจในดนตรีแจ๊สกันมากขึ้น
 
 "นอกจากถ้วยรางวัลที่ผู้ชนะเลิศได้กลับไปแล้ว พวกเขายังโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางดนตรีแจ๊สร่วมกันระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย และที่สำคัญผู้ที่ชนะการแข่งขันการประกวดจากเวทีนี้ จะได้เปิดการแสดง The Finale Concert ร่วมกับศิลปินชั้นนำของเมืองไทยให้เป็นที่ประจักษ์สู่สาธารณชน ซึ่งจะเป็นโอกาสได้พัฒนาฝีมือให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยมากนัก เราเชื่อมั่นว่า เวทีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้กับเยาวชนไทยที่รักในดนตรีแจ๊สให้ก้าวหน้าไปสู่ระดับสากลต่อไปได้ และไม่เพียงกิจกรรมเพื่อเยาวชนที่รักในดนตรีเท่านั้น"
 
 
 |  
 | 
Rediscover Hotmail®: Now available on your iPhone or BlackBerry 
Check it out.
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น