"คริส เบเกอร์"ชี้นักการเมือง-ผู้สนับสนุนถอยห่าง แต่ยังเชื่อ"แม้ว"ถูกแกล้ง"BBC" บอกไร้คนชนะ-ยืดเยื้อ
สื่อนอกชี้นักการเมืองเริ่มถอยห่าง "แม้ว" แต่ผู้สนับสนุนยังมองว่าถูกกลั่นแกล้ง "บีบีซี"วิพากษ์ไม่มีผู้ใดชนะ ความขัดแย้งยืดเยื้อ การเมืองทำเศรษฐกิจทรุดหนัก แนะทางออก เจรจา-แก้รัฐธรรมนูญ จัด "เลือกตั้ง" ครั้งใหม่ให้เร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 15 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศ ยังคงมีการรายงานข่าวคราวทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย เอเอฟพี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสียท่าหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณถูกปราบ และโดดเดี่ยวมากขึ้นหลังจากกลุ่มแกนนำ นปช.ถูกจับกุมตัว อีกทั้งยังมาถูกออกหมายจับข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และบาดเจ็บอีก 123 คน
นายคริส เบเกอร์ ผู้เคยเขียนประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า หลายต่อหลายคนเริ่มรู้สึกว่า รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น บรรดานักการเมืองที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มที่จะเข้าใจและถอยห่างออกจาก พ.ต.ท.ทักษิณมาอีกนิด แต่ก็ไม่เชื่อว่า จะทำให้ความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณต่อกลุ่มผู้สนับสนุนลดน้อยลงไป และคิดว่ากลุ่มผู้สนับสนุนจะยังคงมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ที่เสียหายและถูกกลั่นแกล้ง
ในขณะที่ นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของบรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ (บีบีซี) นำเสนอบทความแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของบีบีซี นิวส์ ในวันเดียวกันระบุว่า ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวของเหตุการณ์กลียุคในไทยหนนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็คือ ไม่มีผู้ใดได้รับชัยชนะ กลุ่มเสื้อแดงไม่ชนะหลังจากพยายามสร้างความโกลาหลอลหม่านให้เกิดขึ้นด้วยการปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายต่อหลายครั้ง สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นอย่างมากตามท้องถนนในกรุงเทพฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์สามารถดึงเอาอำนาจกลับคืนมาได้ด้วยปฏิบัติการสลายม็อบที่ประสบความสำเร็จของทหาร แต่ก็ทำให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่งหลายเดือนก่อนกลายเป็นคำสัญญาที่กลวงเปล่า
ในความเห็นของเฮด กองทัพเองก็ไม่ได้รับชัยชนะ เพราะการตัดสินใจที่จะจัดการกับผู้ประท้วงในครั้งนี้ ในขณะที่วางเฉยในการดำเนินการกับการประท้วงของกลุ่มเสื้อเหลืองเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ข้ออ้างว่าจะเป็นกลางของกองทัพกลายเป็นเรื่องน่าขัน นี่ยังไม่นับภาพลักษณ์ที่เสียหายจากการรัฐประหารรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปี 2549 ในขณะที่ตำรวจเองก็ไม่ชนะจากการกลายเป็นกองกำลังที่อำนาจและกำลังขวัญลดน้อยลงทุกที
สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ใช่ผู้ชนะหลังจากที่คำเรียกร้องหวือหวาเกินจริงของอดีตนายกรัฐมนตรีไม่มีผลในทางปฏิบัติ ในขณะที่เจ้าตัวยังอยู่ในสถานะลี้ภัยต้องเร่ร่อน ไม่มีแม้แต่ที่ที่ปลอดภัยให้หลบซ่อน
โจนาธาน เฮด ชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นปัจจัยที่ชัดเจนที่สุดที่ก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคมไทย เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณคือตัวแทนของพวกเขา ไม่ว่าจะมีความผิดพลาดให้เห็นชัดเจนแค่ไหนก็ตาม ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็ชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณคืออันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยจากการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจอย่างบิดเบือน
ในตอนท้ายบีบีซีชี้ว่า เมืองไทยไม่มีคนอย่าง บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ดังนั้น ความขัดแย้งในสังคมไทยจึงยังคงดำเนินต่อเนื่องต่อไป ทำลายทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยวและคนไทยเองต่อเสถียรภาพในอนาคตของประเทศ
วันเดียวกัน นายคอลัม เมอร์ฟี่ ผู้ช่วยบรรณาธิการฟาร์อีสเทิร์น อีโคโนมิก รีวิว ที่เผยแพร่เฉพาะในเว็บไซต์ เขียนบทความแสดงความคิดเห็นลงตีพิมพ์ใน เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล เสนอทางออกเพื่อให้เกิดสมานฉันท์ขึ้นในไทยว่า อาจจำเป็นต้องมีการอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ และอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย 111 คน เปิดโอกาสให้กลับเข้าสู่ระบบการเมืองอีกครั้ง ปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จากนั้นก็จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพราะการคงอยู่ในอำนาจของรัฐบาลชุดนี้อาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
นายเมอร์ฟี่ ระบุ เคยสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่นายอภิสิทธิ์ขอเวลาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก่อน แล้วจะ เข้าหาประชาชน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์คิดผิด เพราะการแขวนการแก้ปัญหาระยะยาวไว้บนหิ้ง ไม่ได้ช่วยให้ประเทศไทยดีขึ้นทั้งทางด้านการเมืองและทางเศรษฐกิจ แต่เป็นการยืดระยะเวลาที่เจ็บปวดให้ยาวออกไปจนยากที่จะแก้ปัญหาความแตกแยกและนำพาประเทศไปสู่การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด
เอเอฟพี รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศเบลเยียมได้ประกาศยกเลิกคำเตือนการเดินทางมากรุงเทพฯ หลังจากการออกประกาศเตือนมาก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน ซึ่งการประกาศยกเลิกคำเตือนมีขึ้นหลังกลุ่มเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุม โดยกระทรวงต่างประเทศเบลเยียมระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลได้ยุติการชุมนุมลงแล้ว แต่ก็ขอเตือนผู้ที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯว่าการชุมนุมประท้วงอาจจะเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้น การเพิ่มความระมัดระวังตัวจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
เอเอฟพีรายงานด้วยว่า ในความเห็นของนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อสถานะการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของไทย นายจุน ทรินิแดด นักเศรษฐศาสตร์ประจำซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า สำหรับตลาดเงิน ตลาดทุนแล้วเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นการ "ช็อคทางการเมือง" ซึ่งจะส่งความรู้สึกในเชิงลบต่อตลาดโดยรวม แม้มีความเป็นไปได้ในระยะสั้นว่าตลาดจะมองนายกรัฐมนตรีไทยที่คลี่คลายเหตุการณ์ลงได้ด้วยดีในทางบวก แต่สิ่งที่ตลาดต้องการก็คือการยุติความขัดแย้งลงโดยเด็ดขาด ซึ่งยังมองไม่เห็นทาง
นักวิเคราะห์รายนี้ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา แนวทางแก้ปัญหาของนายอภิสิทธิ์ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของตลาด ปัญหาของรัฐบาลไทยในเวลานี้จึงไม่ใช่ปัญหาในเชิงเศรษฐกิจหากแต่เป็นปัญหาทางการเมืองมากกว่า
ทางด้าน จูเลีย โกะ นักเศรษฐศาสตร์จากสำนักวิจัยซีไอเอ็มบี-จีเค เชื่อว่า การจัดการกับผู้ก่อจลาจลได้อย่างราบรื่น ไม่ได้ปัดเป่าภาพความแตกแยกขัดแย้งลึกซึ้งของสังคมไทยไปได้แต่อย่างใด ความรู้สึกในทางลบยังคงอยู่ เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปัจจัยภายนอกก็เป็นลบต่อไทยทั้งหมด
ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ระดับความเสี่ยงของไทยซึ่งเป็นการคิดจากปัจจัย 6 ประการ ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ กฎหมาย ภาษี การดำเนินงานและความมั่นคง ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.93 จากระดับเสี่ยงสูงสุด 5 เกือบเท่ากับอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ที่ 2.94 และต่ำกว่ามาเลเซีย (2.47) กับฟิลิปปินส์ (2.72) เมื่อผสมกับการลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยลงของสำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือเอสแอนด์พี เมื่อวันที่ 14 เมษายน เชื่อว่าจะทำให้อันดับความน่าลงทุนของไทยทรุดต่ำลงมาก
รอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์สรุปทางออกที่เป็นไปได้ สำหรับไทยไว้ว่า นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์อาจด้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนยากจนในชนบทที่ต่อต้านรัฐบาลได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพมากขึ้น อีกทางหนึ่งคือการหาทางออกด้วยการเจรจาทำความตกลงกับฝ่ายตรงข้าม แก้ไขข้อบกพร่องในรัฐธรรมนูญ และกำหนดบทบาทที่เหมาะสมให้กับทหารและสถาบันอื่นๆ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1239801573&grpid=10&catid=01
Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.
 




 
  
 

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น