"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552

คลังจ่อออกบอนด์ 9.4หมื่นล.ฟื้นศก. เล็งถ่างเพดานเงินกู้หลังยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6715 ข่าวสดรายวัน


คลังจ่อออกบอนด์ 9.4หมื่นล.ฟื้นศก. เล็งถ่างเพดานเงินกู้หลังยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน




นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินอีก 94,000 ล้านบาท เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การกู้เงินในงบประมาณปี 2552 ของรัฐบาลเต็มเพดาน 441,000 ล้านบาท ตามกรอบกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งกำหนดเพดานกู้เงินให้ไม่เกิน 20% ของงบประมาณรายจ่ายบวกกับการกู้ 80% ของการตั้งงบชำระหนี้เงินต้นในแต่ละปี ซึ่งจะเริ่มทยอยกู้เงินจากแหล่งต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ 3 มีทั้งตราสารทางการเงินระยะสั้นและระยะยาว

สำหรับวงเงินกู้ก้อนแรก จำนวน 34,000 ล้านบาท จะออกเป็นพันธบัตร(บอนด์) ด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งเป็น การออกตราสารรูปแบบใหม่เข้ามาในตลาด จากเดิมพันธบัตรรัฐบาลจะมีเฉพาะดอกเบี้ยคงที่ เพื่อลดความเสี่ยงให้มีการบริหารจัดการได้สะดวก แม้จะเพิ่มต้นทุนให้กับรัฐบาลผู้ระดมทุน แต่จะดึงดูดให้นักลงทุนสนใจซื้อพันธบัตรได้มากขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจะให้ผลตอบแทนสูงขึ้นได้อีกทางหนึ่ง ส่วนที่ 2 จะออกเป็นตั๋วเงินคลังวงเงิน 30,000 ล้านบาท ส่วนที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท จำหน่ายให้กับสถาบันการเงินทั่วไป

ส่วนสุดท้ายวงเงิน 10,000 ล้านบาท จะออกเป็นพันธบัตรออมทรัพย์จำหน่ายให้กับประชาชน เริ่มจำหน่ายในเดือนมิ.ย.นี้ โดยต้องพิจารณาดูว่าจะออกเป็นพันธบัตรอายุ 3 ปี หรือ 5 ปี เพื่อให้เป็นแหล่งเงินออมของประชาชนในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มองกันว่าอาจทำให้รายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย 240,000 ล้านบาท การกู้เงินเพิ่มเติมเพียง 94,000 ล้านบาท คงยังไม่เพียงพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐบาลในการบริหารจัดการ

"สำหรับกรณีเอสแอนด์พีได้ลดอันดับเครดิตเฉพาะการระดมทุนสกุลเงินบาท ขณะที่ฟิทซ์ เรตติ้ง ที่ลดอันดับเครดิต ทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศ ยังไม่ทำให้ภาระต้นทุนการระดมทุนของรัฐบาลสูงขึ้นมากนัก แต่หากสถาบันจัดอันดับเครดิตรายอื่นลดเครดิตเพิ่มเติมด้วยอาจทำให้ภาระต้นทุนการกู้เงินสูงขึ้น" นายพงษ์ภาณุ กล่าว

ทั้งนี้ การกู้เงินของรัฐบาลจึงคงยึดแนวทางการกู้เงินในประเทศเป็นหลัก เพราะสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอและไม่น่าจะเป็นส่วนสำคัญให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับสูงขึ้น ส่วนการกู้เงินจากต่างประเทศ ซึ่งมีเพดานอยู่ 183,000 ล้านบาท ได้กู้ไปแล้วส่วนหนึ่งเหลือ 70,000-80,000 ล้านบาท และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้ไทยมีพื้นฐานที่เข้มแข็งทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงมากเป็นประวัติการณ์ สถาบันการเงินยังมั่นคงหากรัฐบาลชี้แจงกับต่างประเทศได้ดี การระดมทุนของไทยน่าจะยังได้รับความสนใจอยู่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะมีการพิจารณาขยายเพดานเงินกู้พิเศษ เพื่อชดเชยขาดดุลเพิ่มขึ้นหลังจากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

หน้า 9

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNakU0TURRMU1nPT0=&sectionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBd09TMHdOQzB4T0E9PQ==
 





Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Thailand
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com