|  |  | 
 
 | ปัญหาการเข้าถึงสิทธิของคนงานที่เจ็บป่วยหรือประสบอันตรายจากการทำงาน ตามกฎหมาย พรบ.เงินทดแทน พ.ศ. 2537 โดย : คุณสมบุญ สีคำดอกแค เมื่อ : 20/04/2009 11:29 AM | 
| ทำไมต้องมาพูดกันถึงปัญหาการเข้าถึงสิทธิ !!!!! ตามกฏหมายพรบ.เงินทดแทน ปี พ.ศ. 2537 ซึ่งใช้มา 15 ปีกว่าแล้ว แต่ตัวเลขและ สถิติของคนงานที่เจ็บป่วยและประสบอันตรายจากการทำงาน ที่มีถึงปีละ 200,000 คน ที่คนงานต้องประสบอันตราย สูญเสีย แต่ผู้ใช้แรงงานอีกมากมาย ต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง สูญเสีย สุขภาพ หรือตายฟรี ยังมีอีกมากมาย เช่น ประกาศเรื่องโรค จากปี 37-50 มี 32 โรคปัจจุบัน มี 80 โรค แสดงว่าสถานการณ์มีความวิกฤตรุนแรงมากขึ้น กรณี .. - แขนขาด มือขาด เท้าขาด นิ้วขาด สูญเสียการมองเห็น สูญเสียสมรรถภาพ หรือเสียชีวิต เนื่องจากการทำงาน - แต่ ..ความเจ็บป่วยเรื้อรัง จากสารเคมี ฝุ่นละออง ในที่ทำงาน หรือ..การทำงานด้วยความรีบเร่งการผลิต ท่าทางซ้ำซาก จน กล้ามเนื้ออักเสบ กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ความผิดปกติของความรู้สึกตัวและจิตฟั่นเฟือนเป็นเหตุให้ไม่สามารถทำงานได้หรือวิกลจริต เนื่องจากการทำงาน คนงานเจ็บป่วยและการประสบอันตรายจากการทำงานแต่กลับยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ ไม่ได้รับสิทธิ ตาม พรบ.เงินทดแทน พ.ศ. 2537 เพราะหลายปัจจัย  (1) ปัญหาที่ตัวของคนงาน 
 
 
 
 
 
 
 รอผล ถ้าผลอุทธรณ์กลับมาว่าเจ็บเนื่องจากการทำงาน ก็มีสิทธิตามกฎหมาย ได้สิทธิก็รับเงินค่าทดแทนค่ายามีสิทธิรับเงินทดแทนการลาหยุดพักรักษาตัวตามใบแพทย์กำหนด (แพทย์สั่ง) ฟ้องศาล หากผลอุทธรณ์ออกมาไม่ได้รับสิทธิ์ หรือว่าการป่วยประสบอันตรายไม่เนื่องจากการทำงาน ลูกจ้างต้องฟ้องศาลภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับผลอุทธรณ์คำวินิจฉัยของกองทุนเงินทดแทน กรณีสงสัยว่าลูกจ้างเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน แต่ไม่มีผลการวินิจฉัยโรคที่ชัดเจน สามารถแจ้งการประสบอันตรายได้ ณ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ จังหวัด/สาขา ที่ลูกจ้างประจำทำงานอยู่เพื่อให้สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ จังหวัด/สาขา ส่งตัวลูกจ้างไปรับการตรวจวินิจฉัยที่คลินิกโรคจากการทำงาน ซึ่งกองทุนเงินทดแทนได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการตั้งคลินิก เพื่อ ตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคจากการทำงานให้แก่ลูกจ้าง โดยแบ่งคลินิกโรจจากการทำงานเป็น 2 ระดับ คือ 
 
 กระบวนการเข้าถึงสิทธิ์ 1.) เจ้าตัวต้องรู้ต้องกล้าต้องสู้ 2.) ยื่นเรื่องขอใช้สิทธิกองทุนเงินทดแทน (จะต้องมีข้อมูลข้อเท็จจริง) 3.) รวมตัวกันเป็นกลุ่มสามัคคี 4.) เมื่อเจ็บป่วยหรือประสบปัญหา ร่วมเจรจา กับนายจ้าง 5.) สร้างความเข้าใจให้แก่พรรคพวกเพื่อนพ้องให้เข้าใจปัญหา 6.) ต่อรองด้วยการทำอะไรที่พักพร้อมกัน 7.) หาตัวช่วย ที่ปรึกษา องค์กรพันธมิตร สื่อมวลชน 8.) สร้าง-ประสาน เครือข่าย 9.) ติดตามการแก้ไขปัญหา 10.) มาตรการแก้ไขปัญหาทางออกร่วมกัน 11.) ร้องเรียนร้องทุกข์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 12.) ดำเนินการทางกฎหมาย 13.) ไกล่เกลี่ย 14.) ดำเนินคดีตามขบวนการศาลจนสิ้นสุดคดีความ สรุปการอภิปรายวันนี้ซึ่งดิฉันคิดว่า การผลักดัน ร่างพรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน จึงเป็นการหาแนวทางออก เรื่องสุขภาพความปลอดภัยที่สำคัญในปัจจุบัน เพราะจะได้ปฎิรูประบบสุขภาพความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วม และเน้นการป้องกัน ดั่งคำพระท่านว่า "คนที่มีหน้าที่ช่วยชีวิตคน หากทำจะเกิดผลบุญอนันต์ หากละเลยไม่ทำ จะบาปอย่างมหันต์" สุขภาพดี คือ ชีวิตที่มั่นคง ความปลอดภัย คือ หัวใจของการทำงาน หมายเหตุ 
 | 
Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.
 




 กองทุนเงินทดแทน ออกระเบียบ หรือเกณฑ์การเข้าถึงสิทธิเองโดยไม่มีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
 กองทุนเงินทดแทน ออกระเบียบ หรือเกณฑ์การเข้าถึงสิทธิเองโดยไม่มีส่วนร่วมของทุกฝ่าย    เมื่อป่วย-อุบัติเหตุ
 เมื่อป่วย-อุบัติเหตุ   
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น